ไวษณพนิกาย
นิกายนี้นับถือ พระวิษณุ ว่าเป็นเทพเจ้าองค์สูงสุด
โดยนับถือปางต่างๆ ทั้ง 10 ปางของพระวิษณุ (หรือพระนารายณ์ 10
ปาง) ที่อวตารจุติ เทพีลักษมีมเหสีของพระวิษณุ พญาครุฑพาหนะของพระวิษณุและหนุมานวานรเทพ
ซึ่งเชื่อว่าได้ช่วยเหลือพระราม (ในรามเกียรติ์) ในการรบกับราวณะ
(ทศกัณฐ์) ผู้นับถือศาสนาฮินดูลัทธิไวษณวะจึงให้การเคารพนับถือ
รอยเจิมที่หน้าผากของชาวฮินดูเป็นจุจ 3 จุด เป็นเครื่องหมายแสดงถึงการเคารพพระวิษณุ
ชาวฮินดูภาคใต้ของอินเดียทาร่างกายของตนไว้เพื่อแสดงถึงนิกายที่ตนนับถือ
นิกายไวษณวะ นี้มีอิทธิพลมากที่สุดในอินเดียภาคเหนือ
และในบริเวณชายฝั่งทะเลตะวันตกของนครบอมเบย์ การเคารพพระวิษณุหรือพระนารายณ์มีแนวโน้มทางปฏิบัติตาม
ลัทธิภักดี (การเสียสละ) มากกว่าการ เข้าฌาน
(ซึ่งเป็นแนวทางปฏิบัตของลัทธิไศวะ) โดยทั่วๆไปในลัทธิไวษณวะมีเป้าหมายเพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับชีวิต
ไม่มีการใช้ชีวิตสัตว์บูชา พระวิษณุมีความเชื่อมั่นในการดำรงชีวิตในแนวทางที่ดี
ลัทธินี้มีความเห็นตรงกันข้ามกับลัทธิสอนการบำเพ็ญตบะเพื่อความหลุดพ้นของไศวะนิกาย
นิกายไวษณวะ แบ่งย่อยๆ เป็นอีกหลายนิกายด้วยกัน
เช่น นิกายรามาณุช เป็นนิกายสถาปนาโดย รามาณุช
ซึ่งเป็นพราหมณ์ทางภาคใต้ของชาวอินเดีย ท่านผู้นี้ไม่ยอมเชื่อเรื่อง
ลัทธิเอกนิยมสมบูรณ์ (Absolute Monism) ของสำนัก
สังคาราจริยะ โดยสอนปรัชญาแห่งการเสียสละเพื่อพระเจ้า
นิกายนี้ปฏิเสธเรื่องการแบ่งชนชั้นวรรณะ แล้วยืนยันว่าผู้ที่ให้การเคารพต่อพระวิษณุโดยการภักดี
จะทำให้ระบบวรรณะในสังคมของอินเดียสลายตัว และพระเจ้าย่อมทรงพอพระทัยในการไม่มีระบบชนชั้นอยู่ในบรรดาผู้ที่ให้ความนับถือพระองค์
อิทธิพลคำสอนของรามาณุชส่วนใหญ่มีเฉพาะบริเวณภาคใต้ของอินเดีย
รามาณุชถึงแก่กรรมในศตวรรษที่ 12 แต่สาวกของเขาชื่อ รามานัดดา
ได้ปรับปรุงคำสอยของรามาณุชเผยแพร่ในอินเดียภาคเหนือ
นักปฏิรูปนิกายไวษณวะอีกท่านและจัดตั้งนิกายขึ้นมาอีกนิกายหนึ่ง
คือ มธวะจริยะ เป็นพราหมณ์อยู่ในบริเวณชายฝั่งมาลาบาร์
อิทธิพลคำสอนของท่านผู้นี้มีมากในบริเวณใต้สุดของอินเดีย ท่านผู้นี้สอนถึง
สภาพความเป็นจริงของแต่ละบุคคล (ชีวาตมัน)
กับเรื่อง วิญญาณสูงสุด (ปรมาตมัน)
และสอนว่าวิญญาณทั้ง 2 นี้ ไม่สามารถรวมเข้ากันได้
คำสอนของท่านผู้นี้คล้ายกับคำสอนในศาสนาคริสต์ มัธวะจริยะสนับสนุนเรื่องระบบชั้นวรรณะของฮินดู
แต่คำสอนของเขาในเรื่อง ทวิสภาวะ (Daulity)
คือสภาพของชีวาตมันกับปรมาตมัน ได้รับความนิยมมากในบรรดาชนวรรณะต่ำของสังคมอินเดีย
ในแคว้นแบงกอล มีศาสดาในลัทธิไวษณวะอีกท่านหนึ่งชื่อ ไชยธัญญะ
ท่านผู้นี้เกิดในศตวรรษที่ 14 เป็นผู้ที่สนับสนุนลัทธิภักดีและนับถือ
พระกฤษณะ ซึ่งเป็นปางที่ 8 ของพระวิษณุอวตารลงมาจุติเป็นสารถีรถศึกให้
พระอรชุน ในมหากาพย์ มหาภารตะ
การที่ศาสดาผู้นี้เคารพพระกฤษณะทำให้ท่านผู้นี้สนับสนุนลัทธิ
รัฐ-กฤษณะ ซึ่งเป็นลัทธิของความสัมพันธ์ระหว่างวิญญาณกับพระเจ้า
อิทธิพลในคำสอนของไชยธัญญะไม่เพียงมีอยู่ในแคว้นแบงกอลเท่านั้น
ในวิหารแห่งชคันนาธในรัฐโอริสสา ซึ่งครั้งหนึ่งไชยธัญญะเคยพำนักอยู่
ที่นี่เต็มไปด้วยอิทธิพลของไชยธัญญะ ในมธุราบ้านเกิดของพระกฤษณะและเป็นบ้านของลัทธิรัฐกฤษณะก็อยู่ภายใต้อิทธิพลคำสอนของไชยธัญญะเช่นกัน
มีนิกายในลัทธิไวษณวะอีกนิกายหนึ่งชื่อนิกาย มหาราชา
เป็นนิกายขยายความลัทธิรัฐ-กฤษณะให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น นิกายนี้สถาปนาโดย
วัลภาจริยะ นิกายนี้นับถือบุคคลที่เรียกว่ามหาราชา
โดยเชื่อว่าคือผู้มีชีวิตของพระกฤษณะอยู่ในพระองค์ ต่อมาสวามีนารายณ์ปรับปรุงนิกายนี้ให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้น
ถึงแม้ว่าลัทธิหรือนิกายไวษณวะจะแบ่งย่อยๆ ออกเป็นอีกหลายนิกายก็ตาม
แต่ก็มีจุดร่วมอยู่ด้วยกัน ในเรื่องการนับถือ พระวิษณุ
หรือ พระนารายณ์สิบปาง เป็นเทพเจ้าสูงสุด
ลัทธิไวษณวะเกิดขึ้นมาเมื่อประมาณ พ.ศ.1300 ผู้สถาปนาลัทธิอันยิ่งใหญ่นี้คือ
นาถมุนี
อ่านเรื่อง
"พระวิษณุ" เพิ่มเติมได้ที่นี่
|