ในขณะเดียวกัน
พระอินทร์และเหล่าเทวะทั้งหลายได้กล่าวสรรเสริญต่อพระศิวะเทพ
และทรงเชื้อเชิญพระศิวะประทับเคียงข้างพระแม่อุมา พระแม่ทรงยินดีแล้ว
และนำพระคเณศมานั่งบนตัก พระศิวะเทพทรงวางพระหัตถ์บนศีรษะของพระกุมาร
พระศิวะเทพทรงตรัสต่อเหล่าเทพว่า
"นี่คือโอรสอีกองค์ของข้า"
พระกุมารทรงลุกขึ้นแสดงความเคารพต่อพระศิวะเทพ พระแม่อุมาเทวี
พระวิษณุเทพ พระพรหม และทรงยืนต่อหน้าเหล่าฤาษีทั้งหลาย
เหล่าเทพมีความยินดีอย่างสูง ภายหลังจากที่ได้ประทานพรยิ่งใหญ่แก่พระกุมารว่า
"โอ เหล่าเทวะผู้ยิ่งใหญ่ ดั่งเช่นการกราบไหว้บูชาต่อพวกข้าทั้งสามองค์ในสามโลก
ด้วยเหมือนกับที่พวกท่านทั้งหมดจะต้องให้ความเคารพบูชาต่อพระคเณศ
พวกเราเป็นเชื้อสายแห่งธรรมชาติชั้นสูง พระกุมารนี้ก็เช่นเดียวกัน
ด้วยเหตุนี้ จึงมีค่าควรแก่การกราบไหว้บูชา พระคเณศจะต้องได้รับการกราบไหว้บูชาก่อน
และจึงจะทำการกราบไหว้บูชาต่อพวกเรา ถ้าหากไม่มีการกราบไหว้พระคเณศก่อน
ก็เหมือนกับว่าพวกเรายังไม่ได้รับการกราบไหว้บูชา ผลบุญก็เท่ากับศูนย์
และจะไม่มีข้อสงสัยในเรื่องนี้อีกเลย"
เมื่อได้กล่าวดังนี้แล้ว เทพทั้ง 3 พระองค์ได้ทำการกราบบูชาต่อพระคเณศ
พระศิวะทรงกราบไหว้บูชาด้วยเครื่องบูชาต่างๆ ต่อมาถึงพระวิษณุ
พระพรหม และพระแม่อุมาเทวีด้วย จากนั้นเหล่าเทพก็ได้กราบไหว้ต่อพระคเณศด้วยความยินดี
เพื่อที่จะให้พระแม่อุมาเทวีทรงพอพระทัย พระคเณศได้ประกาศให้เป็นเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่
อันมีพระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ เหล่าเทพและผู้คนทั้งหลายก็ล้วนแสดงความยินดี
พระแม่อุมาเทวีทรงประทานพรต่างๆ ให้แก่พระคเณศ อันเป็นที่ชื่นชมของทั้งหมดในจักรวาล
พระศิวะเทพตรัสว่า
"โอ...โอรสแห่งพระนางปารวตี ข้ามีความยินดีมาก
จักรวาลทั้งหมดก็พบกับความสุขและยินดีด้วย ไม่มีผู้ใดกระทำได้เช่นนี้
ในยามที่เป็นเด็กชาย เจ้าได้แสดงความกล้าหาญยิ่งใหญ่สมดั่งเป็นโอรสแห่งพระแม่ปารวตี
ขอให้เจ้าพบกับความสุขตลอดกาล ขอให้นามของเจ้าเป็นมงคลยิ่งยวดในการทำลายล้างซึ่งอุปสรรคทั้งหมด
ขอให้เจ้าจงเป็นหัวหน้าแห่งบริวารคณะของข้า และได้รับการกราบไหว้บูชาตลอดไป"
|