ความสัมพันธ์ของอนุทวีปอินเดียกับดินแดนต่างๆ
ของโลกนั้นสามารถสืบย้อนไปได้ถึงสมัยอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุอันเป็นยุคก่อนประวัติศาสตร์สืบต่อมาเรื่อยๆ
จนถึงสมัยที่ชาวอารยันมีบทบาททางวัฒนธรรมแทนที่คนพื้นเมือง ดังปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีในดินแดนต่างๆ
ของโลก ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าแม้อินเดียจะมีพรมแดนธรรมชาติที่ดูเหมือนจะปิดล้อมอินเดียเอาไว้
แต่ในความเป็นจริงนั้น อนุทวีปอินเดียไม่เคยอยู่โดดเดี่ยว
อย่างไรก็ตามหลักฐานต่างๆ ที่ค้นพบก็มิได้ให้ภาพความสัมพันธ์ที่ชัดเจนนัก
จนกระทั่งต้นๆ ยุคคริสตกาลจึงปรากฏหลักฐานที่ชัดเจน เช่นบันทึกของชาวกรีกที่อยู่ในอียิปต์
ชื่อ The Periplus of the Erythraean Sea จากหลักฐานชิ้นนี้แสดงให้เห็นว่ามีการค้าระหว่างอินเดียกับประเทศทางตะวันตก
โดยใช้เส้นทางเดินเรือระหว่างอินเดียกับดินแดนต่างๆ ทางตะวันตก
สินค้าที่สำคัญๆ ที่เป็นที่ต้องการก็คือ ไข่มุก อัญมณีต่างๆ
ผ้ามัสลิน (Muslins) เชื่อว่ามีเครือข่ายของเส้นทางเดินเรือ
รวมไปถึงทางบกที่จะขนสินค้าจากดินแดนตอนในของอินเดียมายังท่าเรือ
และเดินทางต่อไปยังดินแดนต่างๆ นอกจากนี้ยังเชื่อว่ามีการตั้งถิ่นฐานของชาวอินเดียในเกาะบางเกาะในทะเลอาหรับ
อย่างเช่น เกาะโซโคตรา (Socotra) นอกจากนี้ยังพบว่าอินเดียมีการติดต่อกับอาณาจักรโรมัน
เมื่อประมาณ 26 ปีก่อนคริสตกาล (Majumdar, 1976 : 203) การค้าระหว่างอินเดียกับโรมเป็นการค้าทางเรือ
แต่อย่างไรก็ตามก็ต้องขนถ่ายสินค้าทางบกข้ามจากฝั่งทะเลแดงไปยังทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
นอกจากการค้าทางทะเลแล้ว อินเดียก็ยังสามารถติดต่อกับตะวันตกโดยทางบก
เป็นเส้นทางที่พาดผ่านอาณาจักรเปอร์เซียทอดตัวไปตามชายฝั่งของทะเลสาปแคสเปียน
ผ่านซีเรีย เอเซียไมเนอร์ไปยังชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนียน เส้นทางนี้เป็นที่รู้จักกันมากขึ้น
หลังจากที่พระเจ้าอเลกซานเดอร์รุกรานอินเดีย
เส้นทางการค้าทั้งทางบกและทางเรือตกไปอยู่ภายใต้อำนาจของชาวอาหรับหลังจากการสถาปนาอำนาจของอิสลามในคริสตศตวรรษที่
7 ดังนั้นการค้าจึงกลายเป็นการค้าระหว่างอินเดียกับอาหรับแทนที่การค้าโดยตรงระหว่างอินเดียกับตะวันตก
เป็นที่ทราบกันอยู่โดยทั่วไปว่า อารยธรรม วัฒนธรรม
นั้นย่อมติดตามไปกับการค้า เราได้พบการขยายตัวของศาสนาอินเดียไปทางตะวันตก
ในสมัยพระเจ้าอโศกมีการส่งสมณทูตไปเผยแพร่ศาสนาพุทธยังเอเชียตะวันตก
อาฟริกาเหนือ และยุโรปตะวันออกเฉียงใต้ เชื่อว่าศาสนาของอินเดียมีอิทธิพลอยู่ในบริเวณนี้พอสมควรก่อนการสถาปนาศาสนาอิสลาม
ในเอเชียกลางก็เช่นกัน ศาสนาพุทธเป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปใน
กลุ่มชนเผ่าเร่ร่อนในแถบนี้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะอำนาจของพวกกุษานะที่รับนับถือศาสนาพุทธ
และสนับสนุนนิกายมหายาน ซึ่งในเวลาต่อมา ศาสนาพุทธมหายานได้ขยายตัวเข้าไปสู่จีน
ซึ่งยังคงปรากฎอิทธิพลต่อประชาชนนับล้านในหมู่ชาวจีนปัจจุบัน
ในบรรดาดินแดนที่รับอิทธิพลด้านวัฒนธรรมของอินเดียเอาไว้ อาจกล่าวได้ว่า
ดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เป็นดินแดนที่ปรากฏอิทธิพลของอินเดียสูงสุด
ไม่ว่าจะเป็นประเทศ พม่า ไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ลาว
กัมพูชา ในปัจจุบันนี้ ความอุดมสมบูรณ์ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไม่ว่าจะเป็นแร่ธาตุ
ไม้สัก โดยเฉพาะเครื่องเทศทำให้พ่อค้าจากดินแดนต่างๆ ของโลกไม่ว่าจะเป็นอินเดีย
จีน และอาหรับในภายหลังหลั่งไหลกันเดินทางไปค้าขายกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ซึ่งมีสถาพภูมิศาสตร์เหมาะสมกับการค้าทางทะเลเป็นอย่างยิ่ง
เชื่อว่าประมาณศตวรรษที่ 2 ในยุคคริสตกาล พ่อค้าชาวอินเดียจากเบงกอลได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการค้ากับประชาชนในคาบสมุทรมาลายาแล้ว
ดังปรากฏในบันทึกของ ปโตเลมี (Ptolemy) ถึงชื่อเมืองในเกาะชวา
สุมาตรา นอกจากนี้จากบันทึกของพุทธศาสนาก็ยังปรากฎชื่อเมือง
ซึ่งสอดคล้องกับบันทึกของปโตเลมี ชื่อที่ปรากฏนี้เป็นอิทธิพลของอินเดียอย่างแน่นอนเพราะชื่อเมืองต่างๆ
เหล่านั้นเป็นภาษาสันสกฤต การถ่ายทอดอารยธรรมอินเดียสู่ดินแดนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
เป็นไปอย่างช้าๆ พ่อค้าชาวอินเดียผู้อพยพจากดินแดนซึ่งอาจเป็นชนชั้นกษัตริย์
หรือนักบวชได้นำวัฒนธรรมอินเดียไปสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ดินแดนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งมีความเจริญอยู่ในระดับหนึ่ง
ได้รับเอาวัฒนธรรมใหม่เข้าไปผสมผสานปรับปรุงให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมดั้งเดิมของตน
จนกลายเป็นวัฒนธรรมที่มีลักษณะเฉพาะของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
แต่อย่างไรก็ตามก็ยังคงปรากฎร่องรอยของอิทธิพลด้านวัฒนธรรมจากอินเดียอย่างเด่นชัด
เช่น ความคิดทางการเมือง และสถาบันพระมหากษัตริย์ พิธีการของศาสนาพราหมณ์
หลายดินแดนยอมรับนับถือศาสนาพุทธทั้งมหายานและหินยาน วรรณคดีสำคัญๆ
อย่างเช่น มหากาพย์รามายณะ และ มหากาพย์มหาภารตยุทธ
ได้รับความนิยมชมชอบ และรักษาไว้ในดินแดนนี้เป็นอย่างดีอย่างเช่น
ดินแดนที่เป็นประเทศไทยปัจจุบันและดินแดนลุ่มแม่น้ำโขง เช่น
อาณาจักรฟูนัน อาณาจักรเจนละ ต่างก็ได้รับอิทธิพลของอินเดียมาตั้งแต่ต้นๆ
ยุคคริสตกาล นอกจากนี้ยังปรากฏอาณาจักรที่ได้รับอิทธิพลของอินเดียในแถบหมู่เกาะด้วยเช่นกัน
อย่างเช่น อาณาจักรไศเลนทร์ (Sailendra) ซึ่งได้รับอิทธิพลของศาสนาพุทธมหายาน
กล่าวโดยสรุปก็คือวัฒนธรรมอินเดียนอกเหนือจากจะมีความสำคัญ
มีบทบาทต่อประชาชนในอนุทวีปอินเดียเองแล้ว วัฒนธรรมอินเดียยังมีบทบาทสำคัญต่อโลก
โดยได้ให้ความเจริญก้าวหน้าทางวิทยาการด้านต่างๆ กับโลก เช่น
คณิตศาสตร์ วรรณคดี ภาษา ปรัชญา ศาสนา สถาปัตยกรรม รวมทั้งเป็นพื้นฐานสำคัญให้กับบางอารยธรรม
เช่น ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นต้น |