หลังจากใช้เวลา ๕ วันเต็มในการเยี่ยมเยือนราชธานีทั้งสี่ของศรีลังกา
โดยตระเวนไล่ลงมาตามลำดับของประวัติศาสตร์ นับแต่อนุราธปุระ สีคิริยา
โปโลนนารุวะ และแคนดี้ คณะของเราก็มาถึงเมืองนูวาระเอลิยะ ซึ่งเป็นเมืองพักตากอากาศของอังกฤษครั้งยังเป็นเจ้าอาณานิคมเมื่อ
๒ ศตวรรษที่แล้ว
เมืองนี้ตั้งอยู่บนเขาสูง แวดล้อมด้วยเทือกเขาที่ถูกถางเตียนเป็นไร่ชายาวเป็นพืดสุดสายตา
พวกเรามาเมืองนี้ไม่ได้เพื่อพักตากอากาศ จุดหมายที่แท้จริงนั้นทั้งไกลและสูงกว่านั้น
นั่นคือยอดเขาศรีปาทะ อันเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่นักจาริกแสวงบุญทั่วทั้งศรีลังกาใฝ่ฝันจะไป
ให้ถึงอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต
คงไม่มีสถานที่ใดเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทุกศาสนาในศรีลังกาได้มากเท่ากับศรี
ปาทะ ชาวพุทธเชื่อว่าพระพุทธเจ้าเคยเสด็จมาประทับรอยพระบาทบนยอดเขาศรีปาทะ
ส่วนชาวฮินดูก็เชื่อว่ารอยพระบาทของพระศิวะอยู่บนยอดเขานี้ แต่ถ้าถามชาวคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก
ก็จะได้คำตอบว่า รอยเท้าบนยอดเขานี้เป็นของนักบุญโทมัส หนึ่งในอัครสาวกของพระเยซูคริสต์
ทางด้านชาวมุสลิมเล่าก็เชื่อว่านะบีอดัมได้ประทับรอยเท้าไว้บนพื้นโลกเป็น
ครั้งแรกที่นี่หลังจากถูกขับจากสวรรค์
พวกเรามาตั้งหลักพักแรมที่เมืองนูวาระเอลิยะเพื่อเตรียมตัวเตรียมใจสำหรับ
การเดินทางครั้งสำคัญ ศรีปาทะคือสถานที่สุดท้ายในรายการจาริกของเราก่อนกลับกรุงโคลัมโบ
ขณะเดียวกันก็เป็น จุดสุดยอด ของการเดินทางครั้งนี้ด้วย น้อยคนนักที่มาเที่ยวศรีลังกาแล้วจะได้ไปถึงยอดศรีปาทะ
(ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักในนาม Adams Peak) สาเหตุก็เพราะศรีปาทะนั้นเป็นเขาสูงเกือบ
๒,๒๕๐ เมตร ต่ำกว่าดอยอินทนนท์แค่ ๓๒๐ เมตรเท่านั้น ที่สำคัญก็คือไม่มีถนนไปถึง
ต้องเดินด้วยเท้าเท่านั้นจึงจะขึ้นไปถึงยอดได้ ดังนั้นจึงต้องอาศัยทั้งกำลังกายและกำลังใจอย่างยิ่งยวด
สำหรับคณะของเรา นี้คือจุดหมายที่ท้าทายอย่างยิ่ง
หลังจากประชุมและให้กำลังใจกันเกือบชั่วโมง พวกเราเกือบ ๒๐
ชีวิตก็ตกลงกันว่าจะพร้อมใจระดมความเพียรขึ้นไปให้ถึงยอดกันทุกคน
แม้ว่าอายุเฉลี่ยของพวกเราจะเกิน ๕๐ อีกทั้งหลายท่านได้ผ่านแซยิดมาแล้วหลายปี
คืนนั้นพวกเรานอนเอาแรงแต่หัวค่ำท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นเกือบ
๑๐ องศา
เราออกเดินทางตั้งแต่ตีห้า เลี้ยวลดไปตามแนวเขาและเลียบหน้าผาตลอดเส้นทาง
เช้าก็ถึงหมู่บ้านเชิงเขาศรีปาทะ มองจากร้านอาหารที่เราแวะพัก
เห็นภูเขาศรีปาทะอยู่ไกล ๆ โดดเด่นเป็นสง่า ยอดสูงเสียดฟ้า นับเป็นภูเขาที่สวยงามได้รูป
ด้านทั้งสองสอบเข้าหากันและมาบรรจบที่ยอดอันเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท
ลักษณะคล้ายสามเหลี่ยมด้านเท่าหรือพีระมิด สมแล้วที่สามารถสะกดใจและบันดาลศรัทธาให้แก่ผู้คนมานานกว่าพันปี
แต่ชื่นชมได้ไม่นาน ความรู้สึกครั่นคร้ามและหนักใจก็มาแทนที่
เมื่อระลึกได้ว่ายอดเสียดฟ้านั้นคือจุดหมายที่เราต้องเดินไปให้ถึงในอีกไม่
กี่ชั่วโมงนี้ มองด้วยตาเปล่าก็เห็นได้ว่านอกจากยอดเขาจะอยู่สูงและไกลแล้ว
ยังชันอีกด้วย ความลาดเอียงไม่น้อยกว่า ๔๐ องศา ยิ่งสูงก็ยิ่งชัน
อาจถึง ๕๐ องศาด้วยซ้ำ ดูแล้วยังนึกไม่ออกว่าจะขึ้นไปถึงและกลับลงมาภายใน
๑ วันได้อย่างไร แม้ว่าจะเคยเดินขึ้นเดินลงภูกระดึงได้ภายในวันเดียว
แต่นั่นก็ ๓๐ ปีมาแล้ว
ชาวศรีลังกานั้นนิยมมาถึงเชิงเขาตั้งแต่ค่ำ และออกเดินประมาณเที่ยงคืนหรือตีหนึ่ง
เพื่อจะได้ไปรับอรุณบนยอดเขา แต่กำหนดการของคณะเราไม่อำนวย จึงมาถึงตอนเช้าและเริ่มออกเดินราว
ๆ สิบโมง ระหว่างทางก็สวนกับชาวศรีลังกาที่ทยอยเดินลงมา มีทั้งผู้ใหญ่และวัยรุ่นนับร้อย
ท่าทางไม่ค่อยกระฉับกระเฉงเท่าไรนัก
สองข้างทางช่วงแรก ๆ เป็นร้านค้าซึ่งขายสินค้านานาชนิดรวมทั้งเนื้อมังสวอรัติที่ทำจากถั่วเหลือง
นอกจากนั้นก็เป็นวัดเล็ก ๆ และที่พักแรมตั้งเรียงรายกันเป็นพืด
ผู้คนดูขวักไขว่ แต่ยิ่งสูงขึ้นไปร้านค้าก็เหลือน้อยลง มองเห็นธรรมชาติสองข้างทางได้ถนัดถนี่ขึ้น
แต่ถ้าก้มมองที่พื้นก็จะเห็นเศษพลาสติกและห่อขนมกลาดเกลื่อน
ส่อแสดงให้เห็นว่าศรีปาทะกำลังจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยิ่งกว่าสถานที่
จาริกแสวงบุญ
ครึ่งชั่วโมงแรกนั้นเดินได้อย่างสบาย เพราะเส้นทางไม่ค่อยลาดชัน
แต่หลังจากนั้นก็ชันขึ้นเรื่อย ๆ แล้วยังพบอีกว่ามีเขาอีกลูกหนึ่งที่เราจะต้องฝ่าข้ามไปก่อนจะถึงภูเขาศรีปา
ทะ ส่วนศรีปาทะเองก็สูงตระหง่านขึ้นทุกขณะที่เดินเข้าใกล้ จนถึงกับต้องแหงนคอมองยอด
อดสงสัยไม่ได้ว่าจะมีแรงเดินขึ้นไปบูชารอยพระพุทธบาทได้อย่างไร
ผ่านไปได้ชั่วโมงหนึ่งแล้ว จุดหมายก็ยังอยู่อีกไกล แถมยังชันขึ้นทุกที
กำลังก็ลดน้อยถอยลงเป็นลำดับ ขณะที่ความเหนื่อยเมื่อยล้าเพิ่มขึ้น
ถึงตอนนี้ก็รู้แล้วว่างานนี้เดินด้วยเท้าอย่างเดียวไม่พอ ต้องอาศัยใจช่วยด้วย
จึงเริ่มกำหนดลมหายใจเข้าออกให้ประสานกับเท้าที่ย่างก้าว เมื่อกายกับใจเชื่อมประสานกัน
ก็รู้สึกเหนื่อยน้อยลง ไม่ใช่แค่เหนื่อยกายเท่านั้น แต่ความเหนื่อยใจก็ลดลงด้วย
ใจนั้นเหนื่อยก็เพราะคอย นึกถึงเป้าหมาย ยิ่งรู้ว่าเป้าหมายยังอยู่อีกไกล
ใจก็ยิ่งท้อ ยิ่งใจเร่งอยากให้ถึงไว ๆ ก็ยิ่งรู้สึกหงุดหงิดที่ตัวยังไม่ถึงสักที
จะว่าไปแล้วเหนื่อยกายไม่เท่ากับเหนื่อยใจ พอเหนื่อยใจเสียแล้ว
กายก็ทำท่าจะไม่สู้ ถ้าจะเดินให้ได้นาน ก็ต้องรู้จักรักษาใจไม่ให้เป็นตัวถ่วง
นั่นคือแทนที่จะปล่อยใจให้ฟุ้งซ่านหรือเฝ้าจดจ่ออยู่ที่จุดหมายข้างหน้า
ก็ดึงมาให้อยู่กับลมหายใจ คืออยู่กับปัจจุบัน อยู่กับทุกขณะที่ย่างก้าว
ผลที่ตามมาคือจิตงอแงปั่นป่วนน้อยลง นิ่งสงบมากขึ้น เกิดเป็นสมาธิ
ถึงตอนนี้ความเหนื่อยกายก็มารบกวนน้อยลง
แต่ทำเท่านี้ดูจะไม่พอ เพราะแม้ใจจะสู้ แต่แรงดึงดูดของโลกไม่ยอมรับรู้ด้วย
ยังฉุดรั้งต่อไป แถมดูจะฉุดแรงขึ้น ขณะที่เท้าก็ต้องใช้พลังมากขึ้นในการย่างเหยียบบันไดแต่ละขั้นที่ชันมาก
ไม่ต้องพูดถึงแสงอาทิตย์อันแรงกล้า (ถึงตรงนี้จึงเข้าใจว่าทำไมชาวศรีลังกานิยมเดินขึ้นเขาตอนกลางคืน)
เมื่อเป็นเช่นนี้เราจึงตัดสินใจเดินให้ช้าลง ยก ย่าง เหยียบอย่างที่เห็นในหนังเวลาเขาทำ
วิธีนี้ไม่เพียงดีต่อขาทั้งสองเท่านั้น หากยังเป็นการปรานีต่อปอดและหัวใจซึ่งเต้นถี่ยิบอย่างน่าสงสาร
การเดินแบบนี้ สติสำคัญมาก เพราะบางครั้งใจเผลอนึกอยากให้ถึงไว
ๆ ขณะที่กายก็เผลอก้าวเร็ว ๆ ตามความเคยชิน ทำให้ความเหนื่อยทับทวี
จำเป็นต้องมีสติรู้ทันกายที่เคลื่อนไหวและใจที่คิดนึก เพื่อควบคุมจังหวะก้าวให้เป็นไปอย่างช้า
ๆ
เพื่อนชาวเขาเคยแนะว่า เวลาขึ้นเขาให้เดินไปเรื่อย ๆ อย่าหยุดพัก
เพราะขาจะแข็งและเดินได้ยากขึ้น คำแนะนำเช่นนี้ดูเหมือนทำยาก
เพราะยิ่งเหนื่อยก็ยิ่งอยากหยุดพัก แต่เมื่อลองเดินช้า ๆ ไม่เร่งรีบ
ใจประสานกับกาย ไม่วอกแวก เรากลับพบว่าสามารถเดินไปได้เรื่อย
ๆ โดยไม่จำต้องหยุดพักก็ได้ เพราะแต่ละก้าวเป็นการพักในตัว แม้จะยังเหนื่อย
แต่ก็มีกำลังก้าวไปได้เรื่อย ๆ ตรงกันข้ามหากจ้ำเอา ๆ หรือเดินเพราะอยากจะไปให้ถึงไว
ๆ ไม่นานก็เหนื่อยแทบขาดใจ จำต้องพัก ใครที่อยากไปถึงไว ๆ ถ้าเดินแบบนี้
มีแต่จะถึงช้าลง เพราะเสียเวลาไปมากกับการพัก ดีไม่ดีอาจเส้นพลิกเส้นขัด
ไปไม่ถึงเอาเลยก็มี
สองชั่วโมงสุดท้ายหลังจาก แวะพักฉันเพลแล้ว เราเดินขึ้นเขาโดยไม่ได้หยุดพักเลย
ช่วงที่ยากที่สุดคือ ๕๐๐ เมตรสุดท้ายเพราะชันกว่า ๔๕ องศา บันไดแต่ละขั้นดูเหมือนสูงกว่าช่วงต้น
ๆ เพราะรู้สึกว่าต้องยกเท้าสูงขึ้นกว่าเดิม แต่ขาก็อ่อนแรงลงทุกขณะ
ต้องอาศัยมือทั้งสองจับราวบันไดและดึงตัวขึ้นมาทีละขั้น ๆ เสาข้างทางบอกระยะทางว่าใกล้จะถึงยอดเขาแล้ว
แต่เมื่อใจไปพะวงถึงจุดหมาย หรือเวลาชะเง้อมองข้างบน ก็รู้สึกเหนื่อยยิ่งกว่าเดิมเพราะไม่ยอมถึงสักที
ทีนี้จึงต้องกำหนดสายตาให้มองแต่เฉพาะขั้นบันไดไม่กี่ขั้นที่อยู่ข้างหน้า
สนใจแต่เพียงว่าดึงตัวขึ้นมาและยกเท้าย่างเหยียบบันไดข้างหน้าก็พอ
เตือนตนว่า ให้จดจ่อใส่ใจกับแต่ละก้าว ๆ เท่านั้น แล้วจุดหมายปลายทางจะมาถึงเอง
จะว่าไปแล้วจุดหมายก็อยู่ที่ปลายเท้านี้เอง
ในที่สุดเราก็มาถึงยอดศรี ปาทะสมความตั้งใจหลังจากใช้เวลานานกว่า
๓ ชั่วโมง เราก้มกราบรอยพระพุทธบาทซึ่งเป็นรอยลึกยาว ๑๕๐ ซม.
กว้าง ๗๕ ซม. ในแผ่นหิน ด้วยความยินดีปลาบปลื้ม บนยอดเขานั้นเป็นที่แคบ
ๆ ยิ่งตรงที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทด้วยแล้ว ไม่น่าจะรองรับคนได้มากกว่า
๓๐ คน หากเราขึ้นมารับอรุณบนยอดเขาพร้อมกับนักแสวงบุญ (และนักท่องเที่ยว)
ซึ่งแต่ละวันมีนับพัน ๆ คน คงไม่มีโอกาสขึ้นมากราบรอยพระพุทธบาทอย่างใกล้ชิด
พักอยู่ข้างบนได้ชั่วโมงเดียวก็ต้องกลับลงมาก่อนจะมืด เที่ยวนี้หัวเข่าต้องทำงานหนักทั้งสองข้างเพราะต้องรับน้ำหนักตัวตลอด
๒ ชั่วโมงเศษ เมื่อลงมาถึงเชิงเขา เหลียวกลับมามองยอดศรีปาทะซึ่งยืนตระหง่านเทียมเมฆ
อดพิศวงตนเองไม่ได้ว่าขึ้นไปจนถึงยอดเขาได้อย่างไร แต่ที่น่าพิศวงยิ่งกว่าก็คือผู้ร่วมคณะซึ่งหลายคนอายุมากกว่า
๖๐ และกว่าครึ่งเป็นผู้หญิงที่เป็นคนเมือง มีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่พ่ายแพ้แก่สังขาร
นอกนั้นสามารถบากบั่นไปจนถึงยอดเขาและกลับมาได้โดยสวัสดิภาพก่อนพลบค่ำ
ทุกคนพูดตรงกันว่านี้คือประสบการณ์เหนื่อยที่สุดในชีวิต จะว่าไปคงไม่ใช่พวกเราคณะเดียวที่รู้สึกเช่นนี้
นักแสวงบุญชาวศรีลังกาจำนวนไม่น้อยก็คงรู้สึกอย่างเดียวกัน อดสงสัยไม่ได้ว่าหากไม่มีรอยพระพุทธบาทหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์อยู่บนนั้น
จะมีสักกี่คนที่เพียรพยายามขึ้นไปให้ถึงยอด แต่ในอีกด้านหนึ่งก็อดคิดไม่ได้ว่าสำหรับคนที่ขึ้นไปถึงยอด
จะมีใครบ้างไหมที่ไม่พิศวงตนเองว่าขึ้นไปข้างบนนั้นได้อย่างไร
ศรีปาทะเป็นอะไรหลายอย่างสำหรับนักจาริกแสวงบุญ หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือสิ่งกระตุ้นเร้าให้ทุกคนใช้ความเพียรอย่างถึงที่สุด
และช่วยให้ทุกคนได้ค้นพบตนเองว่าตนมีศักยภาพมากกว่าที่เคยคิด
ทุกคนสามารถทำได้มากกว่าที่นึก ยิ่งกว่านั้นก็คือสามารถเป็นได้มากกว่าที่เคยเป็น
ในอดีตการจาริกแสวงบุญต้องอาศัยการเดินทางเป็นแรมเดือนเพราะไม่มีรถยนต์ที่
จะพามาจนถึงเชิงเขา นอกจากความเพียรแล้ว ทุกคนยังต้องรักษาศีล
ซึ่งหมายถึงการอยู่อย่างสมถะ ลดละความสะดวกสบาย ยิ่งเดินทางได้ไกลเท่าไร
ก็ยิ่งขัดเกลาชีวิตจิตใจของตนเองให้โปร่งเบา เป็นอยู่อย่างเรียบง่ายมากขึ้น
และเมื่อถึงคราวที่จะต้องขึ้นเขา ก็จะตระหนักแก่ใจว่าอะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับชีวิต
ใครที่แบกสัมภาระไปมากมาย การขึ้นเขาจะกลายเป็นความทุกข์ทรมานอย่างมาก
ถึงตอนนั้นจะรู้ว่าเพียงแค่อาหาร น้ำ และผ้าไม่กี่ชิ้นก็เพียงพอแล้ว
ที่เหลือนั้นหาใช่สิ่งจำเป็นไม่ การจาริกแสวงบุญเช่นนี้ จุดหมายจริง
ๆ จึงไม่ได้อยู่ที่ยอดเขา หากอยู่ที่การแปรเปลี่ยนตนเองให้เป็นคนใหม่
รอยพระพุทธบาทบนยอดศรีปาทะนั้นเป็นตัวแทนของอุดมคติสูงสุดของชาวพุทธ
นั่นคือ นิพพาน หรือการรู้แจ้ง ด้วยเหตุนี้การขึ้นไปจนถึงยอดศรีปาทะจึงกล่าวได้ว่าเป็นเพียงจุดหมายขั้นต้น
ของการจาริกแสวงบุญเท่านั้น ยังมีจุดหมายที่สำคัญกว่านั้น ได้แก่การค้นพบพุทธะหรือนิพพานในใจตน
การขึ้นไปสักการะรอยพระพุทธบาทบนยอดศรีปาทะจึงมิใช่อะไรอื่น
หากคือการตระเตรียมตนสำหรับการจาริกที่ยาวไกลกว่านั้น อันมีนิพพานเป็นเป้าหมายสูงสุด
ศรีปาทะนั้นสูงเสียดฟ้า สูงจนเหมาะเป็นที่สถิตของสิ่งดีงามและความใฝ่ฝันอันสูงส่ง
ความดีงามและความใฝ่ฝันไม่ได้มีไว้ให้ผู้คนระลึกถึงเท่านั้น
แต่เป็นสิ่งที่เราทั้งหลายควรไปให้ถึงด้วย ประเพณีที่เชิญชวนให้ผู้คนเพียรพยายามขึ้นไปถึงยอดศรีปาทะจึงเป็นเสมือนการ
เชื้อเชิญให้เราทั้งหลายบากบั่นเพื่อบรรลุถึงความดีงามและความใฝ่ฝันอันสูง
ส่งของชีวิต
ความดีงามและความใฝ่ฝันอันสูงส่งของชีวิตนั้น ไม่ได้อาศัยแค่ความเพียรเท่านั้น
หากยังต้องอาศัยศิลปะในการดำเนินชีวิตด้วย ศิลปะดังกล่าวมิใช่อะไรอื่น
หากเป็นอันเดียวกับศิลปะในการขึ้นเขา นั่นคือการรักษาใจให้อยู่กับปัจจุบัน
ไม่พะวงถึงอนาคต ไม่ว่าจุดหมายจะยาวไกลแค่ไหน พึงใส่ใจกับชีวิตและการทำงานในแต่ละขณะให้ดีที่สุด
มีสติเท่าทันกายและใจ ด้วยวิธีนี้เท่านั้นที่เราจะสามารถฟันฝ่าอุปสรรคไปจนถึงจุดหมายได้
ยิ่งอยากถึงไว ๆ กลับถึงช้า แต่เมื่อไม่สนใจจะถึง กลับถึงไว
การรู้จักพักในทุกย่างก้าวย่อมทำให้เดินได้นานและถึงจุดหมายได้ฉันใด
การพักทุกขณะที่ทำงานย่อมช่วยให้มีพลังทำงานอย่างต่อเนื่องจนบรรลุความ
สำเร็จได้ฉันนั้น ไม่ใช่แต่จุดหมายอันสูงส่งเท่านั้น แม้กระทั่งจุดหมายที่แสนธรรมดาสามัญก็บรรลุได้ด้วยศิลปะดังกล่าวเช่นกัน
ขอขอบพระคุณ : นิตยสารสารคดี
---------------- อ่านเรื่ององค์เทพเพิ่มเติม
----------------
หน้าแรก-องค์เทพ
(สยามคเณศ)
ศาสนาพราหมณ์
ศาสนาฮินดู เทพเจ้าอินเดีย
พระพรหม
ท้าวมหาพรหม พระพรหมเอราวัณ ศาลพระพรหม
, พระวิษณุ
พระนารายณ์ พระนารายณ์ทรงครุฑ
นารายณ์ทรงสุบรรณ คาถาบูชาพระนารายณ์สิบปาง
, พระศิวะ
พระอิศวร , พระราม
รามเกียรติ์ รามายณะ ,
พระกฤษณะ
ภควัทคีตา มหาภารตะ ,
ครุฑ
พระยาครุฑ พญาครุฑ
วิธีไหว้พญาครุท ตำนานพญาครุท บทบูชาพญาครุท
,
พญานาค พระยานาค วิธีบูชาพญานาค การไหว้พญานาค
พระแม่อุมาเทวี
เจ้าแม่อุมาเทวี , พระแม่กาลี
เจ้าแม่กาลี ,
พระแม่ทุรคา
เจ้าแม่ทุรกา , พระตรีมูรติ
การบูชาพระตรีมูรติ
พระแม่ลักษมี
เจ้าแม่รัศมี พระนางลักษมี พระลักษมี
,
พระแม่สรัสวตี
พระสรัสวดี พระแม่สุรัสวตี พระสุรัสวดี
,
พระขันทกุมาร
การบูชาพระขันธกุมาร ,
หนุมาน
พระหนุมาน องค์หนุมาน การไหว้หนุมาน
,
พระอินทร์ พระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ
ท้าวจตุโลกบาล
- เทพผู้รักษาประจำทิศ เทพประจำทิศ
,
ท้าวเวสสุวัณ
ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวกุเวร
พระแม่คงคา
แม่น้ำคงคา เมืองพาราณสี ประเทศอินเดีย
, พระแม่ธรณี
, พระแม่โพสพ
--------- สถานที่ ศาล เทวาลัย
เพื่อกราบไหว้ขอพรองค์เทพ ---------
วัดเทพมณเฑียร
วัดเทพมณเทียร , เทวสถานโบสถ์พราหมณ์
เสาชิงช้า
, วัดวิษณุ
ยานนาวา , พิพิธภัณฑ์พระพิฆเนศ
พิพิธภัณฑ์พระพิฆเณศวร์ เชียงใหม่
, ศาลพระพิฆเนศห้วยขวาง
พระพิฆเณศสี่แยกห้วยขวางรัชดาภิเษก
, เสาชิงช้า
, พระพิฆเนศนครนายก
พระพิฆเณศที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ปางนั่ง-ปูนปั้น)
, พระพิฆเนศฉะเชิงเทรา
พระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ปางยืน-สำริด)
วัดพระศรีมหาอุมาเทวี
สีลม วัดแขกสีลม นวราตรี งานนวราตรี
เมืองโบราณ
สมุทรปราการ , พิพิธภัณฑ์ช้างสามเศียร
ช้างเอราวัณ สมุทรปราการ
ช้าง
3 เศียร พิพิธภัณฑ์ช้าง 3 เศียร จังหวัดสมุทรปราการ
-
พระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา องค์พระพิฆเณศ วัดสมาน จ.ฉะเชิงเทรา
-
พระพิฆเนศวร ฉะเชิงเทรา องค์พระพิฆเนศ พระพรหม พระวิษณุ
พระศิวะ ที่วัดสมานรัตนาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา
-
ศาลท้าวมหาพรหมเอราวัณ พระพรหมเอราวัณ แยกราชประสงค์
-
พระพิฆเนศที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ที่อินเดีย
อัสตะวินายัก พระพิฆเนศกำเนิดตามธรรมชาติ 8 แห่ง
-
รวมรูปองค์เทพ | -
รวมสถานที่บูชาองค์เทพ | -
รวมความรู้การบูชาองค์เทพ
โครงการ
"พันเทวาลัย ล้านศรัทธา"
รวมสถานที่สักการะเทพเจ้าของพราหมณ์ฮินดูทั่วประเทศไทย
----------------- เทศกาล
งานสำคัญต่างๆ -----------------
-
"คเณศจตุรถี" งานแห่พระพิฆเณศวร์
วันคเณศจตุรถี วันประสูติพระพิฆเนศวร์
-
"นวราตรี" งานวัดแขก งานแห่พระแม่อุมาเทวี
ร่างทรงพระแม่อุมา งานนวราตรี
-
"มหาศิวราตรี" เทศกาลมหาศิวาราตรี
วันบูชาพระศิวะในงานมหาศิวะราตรี
-
"ดีปาวลี" ดีวาลี่ ทีปาวาลี
เทศกาลดีปาวาลี งานบูชาพระแม่ลักษมีในงานดีปาวรี
-
"พระราชพิธีตรียัมปวาย"
งานตรียัมปวาย งานประจำปี เทวสถานโบสถ์พราหมณ์
- โบสถ์พราหมณ์ การเดินทางไปโบสถ์พราหม์
แผนที่โบสถ์พราห์ม , พระราชพิธีแรกนาขวัญ
งานแรกนาขวัญ
[ การบูชาเทพเจ้า
]
-
รวมบทสวดมนต์บูชาพระพิฆเนศวร
คาถาบูชาพระพิฆเณศวร์ การไหว้องค์เทพ บูชาเทพ วิธีบูชาองค์เทพ
-
ความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการบูชาเทพ การไหว้เทพฮินดู
-
เครื่องหมายโอม...สัญลักษณ์โอม และวิธีการสวดบูชา
| -
เครื่องหมายสวัสดิกะ...สัญลักษณ์สวัสติกะแห่งพระพิฆเนศ
-
สิ่งที่ควรรู้สั้นๆ เกี่ยวกับพระพิฆเนศ การบูชาพระพิฆเณศวร์
| -
ตำนานกำเนิดพระพิฆเนศ ประวัติพระพิฆเณศ
-
ตำนานว่าด้วยเศียรช้าง งาข้างเดียว และหนูบริวารของพระพิฆเนศ
-
ตำนานองค์พระพิฆเนศในเอเชียแปซิฟิก |
-
ตำนานองค์พระพิฆเนศในประเทศไทย
-
พระคเณศ ในฐานะเทพแห่งปัญญาและความรู้
| -
พระพิฆเณศในฐานะหัวหน้าบริวารของพระศิวะ
-
พรที่พระพิฆเนศได้รับจากมหาเทพ-มหาเทวี
| -
อานิสงค์จากการบูชาพระพิฆเนศ การขอพรพระพิฆเนศ
-
คเณศจตุรถี...วันประสูตรพระพิฆเนศ วันคเนศจตุรถี
เทศกาลพระพิฆเนศ งานแห่พระพิฆเณศวัดแขก
-
การบูชาพระแม่กาลี (ตามวิธีของ อ.พิทักษ์ โค้ววันชัย
สำนักพิมพ์สยามคเณศ)
-
บทสรรเสริญพระศิวะ ผู้คืออักขระ 5 ตัว บทสวดพระศิวะมหาเทพ
| -
พระแม่ลักษมี 8 ปาง การบูชาพระแม่ลักษมี
-
พญาครุฑ การบูชาพญาครุฑ องค์พญาครุฑ
| -
พญานาค การบูชาองค์พญานาค | -
ท้าวเวสสุวรรณ ท้าวเวสสุวัณ ท้าวจตุโลกบาล
-
รูปพระแม่อุมาเทวี องค์พระแม่อุมาเทวี พระศรีมหาอุมาเทวี
การบูชาพระแม่อุมาเทวี | -
องค์พระตรีมูรติ การบูชาพระตรีมูรติ
-
พระวิษณุ หรือ พระนารายณ์ การบูชาพระวิษณุ องค์พระวิษณุ
ปางของพระวิษณุ | -
องค์พระแม่ลักษมี รูปพระแม่ลักษมี
-
ตำนานพระสีวลี ผู้เป็นเลิศในลาภสักการะ
| -
พระสีวลีผู้เป็นเลิศในลาภสักการะ | -
การบูชาพระสีวลี การขอพรพระสีวลี
-
การกำเนิดพระสีวลี โดยการทรงประทานพรของพระพุทธเจ้า
| -
พระสีวลี หรือ พระสิวลีพระอรหันต์ผู้มีลาภสักการะเป็นที่สุด
-
ตำนานพระสีวลี พระสิวลี พระสีวะลี ตำนานกำเนิดพระสีวลี
-
พระเกจิ ประวัติพระสงฆ์ หลวงพ่อจรัญ
| -
การเดินทางไปวัด ขอพรหลวงพ่อ วัดในจังหวัดต่างๆ
-
เจ้าแม่กวนอิม องค์เจ้าแม่กวนอิม การบูชาเจ้าแม่กวนอิม
พระแม่กวนอิมปางต่างๆ
[ พระศิวะมหาเทพ
]
1.
ตำนานพระศิวะ | 2.
รูปลักษณ์
แห่งพระศิวะ วิธีบูชาพระศิวะมหาเทพ
| 3.
เมล็ดรุทรักษะ
เมล็ดน้ำตาพระศิวะ
4.
โคนนทิ พาหนะแห่งพระศิวะ
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์
| 5.
ศิวะนาฏราช
พระศิวะร่ายรำ ปางของพระศิวะ
6.
ศิวลึงก์ สัญลักษณ์แทนองค์พระศิวะ
การบูชาศิวลึงค์
| 7.
คาถา บทสวดมนต์ การบูชาพระศิวะ
[ พระประจำวันเกิด
, นวนพเคราะห์ ]
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันอาทิตย์ พระประจำคนเกิดวันอาทิตย์ พระสุริยะเทพ
(พระอาทิตย์)
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันจันทร์ พระประจำคนเกิดวันจันทร์ พระจันทร์
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันอังคาร พระประจำคนเกิดวันอังคาร พระอังคาร
,
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันพุธ พระประจำคนเกิดวันพุธกลางวัน พระพุธ
พระราหู
การไหว้พระราหู วิธีบูชาพระราหู คาถาบูชาพระราหู
พระประจำวันเกิด พระประจำคนเกิดวันพุธกลางคืน
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันพฤหัสบดี พระประจำคนเกิดวันพฤหัสบดี
พระพฤหัสบดี
พระประจำวันเกิด
พระประจำวันศุกร์ พระศุกร์
, พระประจำวันเสาร์
พระประจำวันเกิด พระเสาร์ , พระเกตุ
|
|
|