บทนำก่อนเข้าสู่ "ภควัทคีตา"
-------------------------------------------------------------
การนำเนื้อหาในหน้านี้ไปเผยแพร่ยังเว็บไซต์อื่น
สามารถทำได้
โดยต้องมีข้อความให้ความขอบคุณแก่เว็บไซต์สยามคเณศ
และให้ทำ Link กลับมายังเว็บไซต์ http://www.siamganesh.com
ด้วยทุกครั้ง
ห้ามนำไปตีพิมพ์เผยแพร่ในหนังสือ
วารสาร และสิ่งพิมพ์ใดๆโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บทสรรเสริญองค์กฤษณะและองค์รามะ
ฮะเร คริชณะ ฮะเร คริชณะ
คริชณะ คริชณะ ฮะเร ฮะเร
ฮะเร รามะ ฮะเร รามะ
รามะ รามะ ฮะเร ฮะเร
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื้อหาใน ภควัทคีตา คือ วรรณกรรมทิพย์
ที่อยู่เหนือสิ่งอื่นใดทั้งมวลในโลกและจักรวาลนี้
เราควรอ่าน ศึกษา ทำความเข้าใจให้ละเอียดถี่ถ้วน
เมื่อเราได้ปฏิบัติตามหลักแห่งชีวิตที่นำเสนอใน ภควัทคีตา
อย่างถูกต้องแล้ว
เราจะเป็นผู้มีอิสระ หลุดพ้นจากความทรมานและความทุกข์ยากในชีวิตทั้งปวง
บทโศลกแต่ละบรรทัด แต่ละบท จะช่วยขับกล่อมและปลอบประโลมจิตใจที่เหนื่อยล้า
ให้กลับมามีความสดใสและชื่นบานได้อย่างน่าอัศจรรย์!!!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
องค์กฤษณะจะรับผิดชอบต่อสรรพชีวิตที่น้อมคารวะแด่พระองค์
และจะทรงอภัยต่อบาปทั้งมวลที่มนุษย์ได้สั่งสมไว้..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มนุษย์ทุกคนสามารถเข้าถึง องค์กฤษณะ ได้
แม้จะเป็นพ่อค้า แม่ค้า หญิงที่ตกต่ำ ชนชั้นแรงงาน
แม้จะเป็นผู้ที่มีชีวิตที่ด้อยค่าที่สุด หากยอมรับและภักดีต่อองค์กฤษณะและทวยเทพทั้งหลายในศาสนาพราหมณ์
ยอมรับว่าชีวิตของตนนั้นได้ถูกสร้างมาจากน้ำมือของพระเป็นเจ้า
ยอมรับว่าชีวิตของตนนั้นสามารถถูกทำลายโดยน้ำมือของพระเป็นเจ้า
ยอมรับว่าองค์กฤษณะและทวยเทพต่างๆนั้นเป็นผู้อยู่เหนือชะตากรรมของตน
และตั้งมั่นให้พระองค์เป็น เป้าหมายสูงสุดในชีวิต
ก็ย่อมได้รับการอภัยโทษ ได้รับความสุขอันเป็นนิรันดร์
ปัญหาในชีวิตทั้งมวลย่อมถูกขจัดปัดเป่าให้มลายหายสิ้น
ชีวิตที่สมบูรณ์และสิริมงคลก็จะเกิดแก่ตนตราบจนสิ้นลมหายใจ..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มนุษย์เราอาจจะชำระล้างร่างกายด้วยน้ำสะอาดทุกๆวัน ก็เพียงเพื่อความสะอาดทางกายเท่านั้น
แต่การได้อาบน้ำในแม่น้ำอันศักดิ์สิทธิ์แห่ง ภควัทคีตา
เพียงครั้งเดียว
ความสกปรกทางด้านจิตวิญญาณของเราก็จะถูกชำระจนหมดสิ้น..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภควัทคีตา ได้สอนเราว่า เมื่อมนุษย์ทำบาป ย่อมได้รับผลจากบาปที่ตนกระทำ
เมื่อมนุษย์ทำดี ย่อมได้รับผลดีจากการกระทำของตนเช่นกัน
ทั้งสองสิ่งนี้คือข้อกำหนดจาก พระเจ้าสูงสุด
แต่ทั้ง กรรมดี และ กรรมชั่ว
นี้ จะก่อให้เกิด การเวียนว่ายตายเกิด
ซึ่งการเวียนว่ายตายเกิดนี้ก็ก่อให้เกิด ความทุกข์
ปรัชญาใน ภควัทคีตา จึงสอนให้มุ่งเน้นไปสู่องค์พระผู้เป็นเจ้า
(ซึ่งไม่จำเป็นต้องคือพระกฤษณะเท่านั้น)
การมุ่งสู่องค์พระเป็นเจ้า ก็เพื่อการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
มีกายและจิตที่เป็นทิพย์และจะพบกับความสุขตลอดกาล..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภควัทคีตา คือคัมภีร์ที่เรียกได้ว่าเป็นบทสรุปแห่งคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูทั้งปวง
ไม่ว่าจะเป็นคัมภีร์พระเวท ฤคเวท สามเวท ยชุรเวท อาถรรพ์เวท
คัมภีร์สังหิตา พราหมณะ อารัณยกะ คัมภีร์อุปนิษัท เวทานตะ
ปุราณะ ฯลฯ
ปรัชญาใน ภควัทคีตา เป็นการรวบยอดเอาคำสอนที่กระจัดกระจายในคัมภีร์ต่างๆดังกล่าว
มารวมไว้ในเล่มเดียว
ภควัทคีตา จึงเปรียบได้ว่าเป็น หัวใจ
แห่งคำสอนของศาสนาพราหมณ์-ฮินดูก็ไม่ผิดนัก..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื่องด้วย ภควัทคีตา นี้เป็นส่วนหนึ่งใน
มหากาพย์มหาภารตะ
เมื่ออ่านจบแล้ว เราก็ควรอ่านและศึกษาเรื่อง มหาภารตะ
เพิ่มเติม เพื่อความเข้าใจในปรัชญาของชีวิตอย่างเข้มข้น
มหาภารตะ เป็นมหากาพย์ชั้นเยี่ยม เป็นวรรณกรรมอมตะที่อ่านสนุกน่าติดตาม
ทั้งนี้ การอ่าน ภควัทคีตา ให้จบก่อน
มหาภารตะ ก็ไม่เป็นการผิดขั้นตอนแต่อย่างใด..
(มหาภารตะ จะถูกแปลและเรียบเรียงให้อ่านในเว็บไซต์สยามคเณศแห่งนี้ต่อไปเมื่อจบโครงการแปล
ภควัทคีตา นี้แล้ว)
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผู้ที่เชื่อในคำสอนของคัมภีร์ ภควัทคีตา
ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาฮินดู หรือศาสนาพุทธแต่อย่างใด
คำสอนในภควัทคีตาถือเป็น "ความจริง"
ที่อยู่เหนือการนับถือศาสนาทุกศาสนา
แต่อยู่ภายใต้การนับถือ "องค์พระผู้เป็นเจ้า"
ซึ่งอาจจะเรียกว่า พระกฤษณะ พระตรีมูรติ พระพรหม
พระวิษณุ พระศิวะ
เพราะเราเชื่อในความจริงอันสูงสุด ซึ่งความจริงอันสูงสุดนี้ก็หมายถึงว่า...
ชีวิตของมนุษย์ทุกคนล้วนเกิดจากพระผู้เป็นเจ้า
ซึ่งพระเจ้านั้นอาจจะเป็น พระยะโฮวาห์
(ศาสนาคริสต์) พระอัลเลาะห์ (ศาสนาอิสลาม)
พระพรหม พระวิษณุ พระศิวะ พระตรีมูรติ
พระกฤษณะ ฯลฯ (ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู)
และการศิโรราบต่อองค์พระเป็นเจ้าที่ตนนับถือนั้น คือสิ่งที่ควรทำ
การได้เป็นผู้รับใช้พระเจ้าในศาสนาของตน คือหนทางไปสู่ความสุขอันสูงสุด
ดังที่ทุกศาสนาได้สอนไว้ในแง่เดียวกัน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เนื้อหาใน ภควัทคีตา คือความจริง คือข้อควรปฏิบัติ
คือกฏแห่งการใช้ชีวิต คือระเบียบที่ควรยึดถือปฏิบัติอย่างหลักเลี่ยงไม่ได้
ทั้งนี้ การนำแต่ละบท แต่ละบรรทัด ใน ภควัทคีตา
มาปรับใช้ให้เข้ากับยุคสมัยและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิต
ก็เป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้เหมาะสมแก่กาลเวลา
การศึกษา ภควัทคีตา โดยดึงเอามาประยุกต์ใช้ทีละส่วน
จะทำให้การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่เครียดเกินไปนัก..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ควรสร้างความรู้สึก สำนึก ในพระกรุณาของพระผู้เป็นเจ้าหรือเทพเจ้าที่ตนนับถือ
แต่ไม่จำเป็นต้องเป็น องค์พระกฤษณะ เท่านั้น
อาจจะเป็น พระพิฆเนศ พระวิษณุ พระแม่สรัสวดี ฯลฯ
ก็ได้
เนื่องจากพระเป็นเจ้าทุกพระองค์ที่ปรากฎพระนามในโลกนี้
ล้วนเป็นหนึ่งเดียว
เพียงแต่พระองค์ปรากฎมาในภาคที่แตกต่างกันเพื่อแสดงปาฏิหาริย์โน้มน้าวให้มนุษย์หันหน้าเข้าหาพระองค์มากขึ้น
ความรู้สึกสำนึกในพระกรุณาของพระเป็นเจ้าที่ตนนับถือ
จะส่งผลให้การศึกษา พระคัมภีร์ภควัทคีตา ดำเนินไปอย่างไม่ติดขัด
ความศรัทธาที่เรามีจะก่อให้เกิดความเชื่อมั่นในความสุขที่จะได้รับจากการศึกษาคัมภีร์นี้..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การที่เรามีคนดีอยู่ในโลกนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า พระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริง
การที่เรามีคนชั่วอยู่ในโลกนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า พระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริง
การที่มีคนที่มีความสุขอยู่ในโลกนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า
พระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริง
การที่มีคนที่มีความทุกข์อยู่ในโลกนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า
พระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริง
การที่มีการเกิดชีวิตใหม่ๆขึ้นบนโลกนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า
พระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริง
การที่มีการดับสูญไปของแต่ละชีวิตบนโลกนี้ เป็นข้อพิสูจน์ว่า
พระผู้เป็นเจ้ามีอยู่จริง..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
มหาตมะคานธี คือผู้มองโลกอย่างเป็นกลางที่สุด...เขาเชื่อในพระเจ้าทุกพระองค์
และ อ่านคัมภีร์มาแล้วทุกศาสนา
คานธีเคยกล่าวไว้ว่า ศาสนาทุกๆศาสนามีอยู่จริง
พระเจ้าทุกๆพระองค์มีอยู่จริง...ทุกๆศาสนาล้วนแล้วแต่เป็นความจริงทั้งสิ้น
ผู้ใดจะนับถือศาสนาใด ก็ควรนำเอาหลักของศาสนานั้นๆมาปรับให้เข้ากับการดำเนินชีวิต
ควรหันหน้าเข้าหาพระเจ้า มีความสำนึกในพระเจ้าของตน และไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนศาสนา
รวมถึงไม่จำเป็นต้องโน้มน้าวให้ใครมาอยู่ในศาสนาของตน
เพราะแต่ละคนย่อมมีชะตาที่เข้ากับแต่ละศาสนาไม่เหมือนกัน
ถ้าทำได้ดังนี้ ความสุขในแต่ละศาสนาก็จะเกิดขึ้นอย่างยั่งยืน
และสงครามทางศาสนาก็คงจะไม่อุบัติขึ้นแน่นอน..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ภควัทคีตา เป็นได้ทั้งคัมภีร์ มหากาพย์
บทความ เรียงความ
บทกลอน บทเพลง วรรณกรรม สุดแล้วแต่จะเรียกและเปรียบเทียบ
เนื้อหาในภควัทคีตาสะท้อนปรัชญาแห่งชีวิตออกมาได้อย่างลึกล้ำ
และยากที่จะมีผู้ใดเขียนขึ้นได้อีก
สิ่งใดไม่มีกล่าวไว้ใน มหาภารตะ สิ่งนั้นไม่มีในโลก
ธรรมใดไม่มีกล่าวไว้ใน ภควัทคีตา ธรรมนั้นไม่มีในโลก!!
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ชีวิตคือการต่อสู้..ภควัทคีตาคือคู่มือเพื่อการต่อสู้
นักรบ กษัตริย์ แม่ทัพ และผู้นำทุกคนควรอ่านและทำความเข้าใจให้ถ่องแท้เพื่อประโยชน์ในการต่อสู้กับสิ่งเลวร้าย
มนุษย์ผู้แสวงหาทางรอดและความพ้นจากวงเวียนของบาปกรรมทุกคนควรศึกษาคัมภีร์ภควัทคีตา..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โศลกทุกบทใน ภควัทคีตา สามารถตอบคำถามทางจริยธรรม
คุณธรรม และบาปกรรมได้อย่างถ่องแท้
ปรัชญาในภควัทคีตาจึงเป็นความสุขที่ลึกซึ้ง
และเป็นความปรารถนาที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจของมนุษย์ทุกคน..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศัมการา (Shamkara) คือผู้ที่มองว่า
คัมภีร์ภควัทคีตา นั้นสอนให้เรารู้จักการเสียสละเพื่อส่วนรวม
สอนว่าสิ่งที่บังตาเราทั้งหลายอยู่นั้นคือ บาป
และการหลุดพ้นจากบาปนั้นต้อง มุ่งตรงต่อพระผู้เป็นเจ้า
(มหาเทพ-มหาเทวี)
อวิชชา และ อวิทยา
คือสิ่งที่ขัดต่อการปฏิบัติเพื่อหลุดพ้นจากบาป
การขจัดอวิชชาและอวิทยาได้ก็จะเข้าสู่ พรหมมัน
เข้าสู่ ปรมาตมัน
ปรมาตมัน ก็คือความจริงอันสูงสุด นั่นคือ
ความสุขอันเป็นนิรันดร์ นั่นเอง..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
รามนุจา (Ramanuja) คือผู้ที่มองว่า
คัมภีร์ภควัทคีตา คือบทเพลงที่ขับกล่อมจิตวิญญาณให้เข้าใจถึงพื้นฐานแห่งปรัชญา
ภควัทคีตา ได้พูดถึงความรักแห่งพระเป็นเจ้า
ทั้งความรักที่พระเป็นเจ้ามีต่อเรา และความรักที่เราควรมีต่อพระองค์
การได้พึ่งพา ภควัทคีตา ก็คือการพึ่งพาความรักจากองค์พระเป็นเจ้า
และไม่ต้องพึ่งคัมภีร์เล่มใดอีกเลย..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระกฤษณะ คือ บุคลิกภาพแห่งพระเจ้าสูงสุด
คือ ตัวแทน แห่งองค์พระเป็นเจ้าทุกพระองค์ในจักรวาล
คือผู้มอบความสุขอันสูงสุดและเป็นนิรันดร์แก่มนุษย์
การมอบความภักดีแด่ พระกฤษณะ ก็คือการมอบความภักดีแก่
พระผู้เป็นเจ้า
พระผู้เป็นเจ้าจะประทานความรัก ความเมตตา และคำพรอันประเสริฐทั้งมวลผ่าน
องค์พระกฤษณะ มาสู่มนุษย์
ผู้ที่น้อมคารวะและปฏิบัติ โยคะ หรือ
ภักดี ต่อ องค์พระกฤษณะ ก็ย่อมได้รับคำพรตามคำอธิษฐานจากพระผู้เป็นเจ้า
สิ่งนี้คือความจริงที่หลีกเลี่ยงและปฏิเสธไม่ได้..
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
คัมภีร์ของศาสนาพุทธ นิกายมหายาน (พุทธ)
คัมภีร์ไบเบิ้ล (คริสต์)
คัมภีร์อัลกุรอาน (อิสลาม)
คัมภีร์ภควัทคีตา (พราหมณ์ฮินดู)
คัมภีร์ของศาสนาสิกข์
ต่างกล่าวถึง พระเจ้าสูงสุดผู้ทรงอำนาจเหนือมนุษย์
(ยกเว้นพุทธหินยานของไทย)
การทำความดีและปฏิบัติมุ่งตรงต่อพระเจ้าของตน คือสิ่งที่พระคัมภีร์ได้สอนไว้แล้วในทุกๆศาสนา
...ความดีที่ท่านกระทำลงไป จะไม่มีการสูญเปล่า...
เนื่องจากสภาวะพรหมมัน อาตมัน และ ปรมาตมัน เป็นสิ่งที่ไม่สามารถสลายได้
หากท่านกระทำความดีตราบจนสิ้นลม อาตมันที่จะรอรับกรรมดีของท่านก็จะยังคงรอท่านอยู่
ณ ที่นั้น
...เพื่อนำพาท่านไปสู่พระผู้เป็นเจ้า...ให้ท่านได้มีความสุขตลอดกาล...
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ด้วยความหวังดีจาก - ผู้ศรัทธาในพระผู้เป็นเจ้า
ขอความศานติจงมีแก่ทุกศาสนา
ฮะเรคริชณะ...ฮะเรรามะ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โปรดติดตามอ่าน ภควัทคีตา บทที่ 1 โศลกที่ 1
-------------------------------------------------------------
***สงวนลิขสิทธิ์บทความ***
ห้าม นำเนื้อหาในส่วน ภควัทคีตา
ไปใช้ที่อื่น กรุณาติดต่อ siamganesh@gmail.com
|