ต้องอ่าน!!
ความรู้เรื่องการสวดมนต์ขอพร
การสวดบูชาพระพิฆเนศนั้น เราสามารถสวดด้วยบทใดก็ย่อมได้ตามที่ได้ลงไว้ให้ศึกษาในส่วนต่างๆ
ของเว็บไซต์สยามคเณศนี้
ไม่ว่าจะเป็นบทสวดสั้นๆ เพียงบรรทัดเดียว (เช่น โอม ศรี
คเณศายะนะมะฮา, โอม เอกทันตะ ยะนะมะฮา, โอม เหรัมภะ ยะนะมะฮา
ฯลฯ)
หรือจะเป็นบทสวดยาวๆ (ที่เริ่มต้นด้วย โองการพินทุ นาถังอุปปันนัง....หรือ
โอมปารวตีปัตเย...)
ก็สามารถทำให้องค์พระพิฆเนศท่านพึงพอใจได้เช่นเดียวกัน
การบทสวดสั้นๆเพียงท่อนเดียว ก็เพื่อการสะดวกเมื่อต้องเร่งรีบหรือเดินทางไปไหน
แล้วเดินผ่านเทวาลัยหรือศาลพระพิฆเนศ
เพียงยกมือไหว้แสดงความเคารพ แล้วกล่าวบทสวดเพียงท่อนเดียวก็เสร็จพิธี
(หรือจะสวด 3 จบ 5 จบ 9 จบก็ตามสะดวก)
สำหรับการสวดบทยาวๆ ก็เพื่อให้เกิดสมาธิในการตั้งจิต
หรือใช้สวดเนื่องในโอกาสพิเศษหรือขอพร
แต่ผู้ศรัทธาหลายท่านก็ใช้บทสวดแบบสั้นที่มีท่อนเดียว แต่สวดท่องซ้ำๆกัน
เป็นร้อยเที่ยว พันเที่ยว
เพื่อการนั่งสมาธิให้เข้าถึงญาณและบารมีแห่งองค์ท่าน
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ไม่สำคัญว่าจะสวดบทไหน หรือสวดกี่เที่ยว เพราะบทสวดทุกบทนั้น
ต่างก็มีความหมายที่ดี ล้วนแปลความได้ว่าเป็นการยกย่องพระพิฆเนศ
และเป็นการสื่อให้องค์พระพิฆเนศได้รับรู้ถึงความศรัทธาของเราที่มีต่อองค์ท่าน
ผลดีจะเกิดกับผู้สวดก็ต่อเมื่อปฏิบัติการสวดบูชาเป็นประจำ
และสวดให้ได้ทุกวัน
...ก่อนตัดสินใจกระทำการสิ่งใด ก็ให้สวดมนต์ต่อองค์ท่านก่อน
เพื่อขอเปิดทางไปสู่ความสำเร็จ
...หากพบทางตันแม้ได้ทดลองทุกวิถีทางแล้ว ก็ให้สวดบูชาต่อองค์ท่าน
เพื่อขอประทานสติปัญญาและทางออก
...เมื่อเกิดความเครียด กระวนกระวาย สับสนในจิตใจ ก็สวดบูชาต่อองค์ท่านเพื่อขอประทานสมาธิ
...ก่อนออกเดินทางไกล ก่อนไปเจรจาต่อรอง ก่อนกระทำการใดๆ
อันเป็นการเสี่ยง ฯลฯ
ก็สวดบูชาต่อองค์ท่าน เพื่อขอให้บารมีองค์พระพิฆเนศได้คุ้มครองให้ปลอดภัยและประสบแต่โชคดี
การสวดมนต์นั้น ไม่ว่าจะสวดบูชาต่อพระพุทธรูปในศาสนาพุทธ
หรือสวดบูชาต่อเทพเจ้าในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูก็ตาม
ไม่สำคัญว่าเราจะรู้ความหมายหรือไม่ เนื่องด้วยการสวดมนต์แม้เราไม่ทราบความหมาย
ก็ยังก่อให้เกิดสมาธิและความศรัทธา
และหากสวดอย่างทราบความหมาย ก็ก่อให้เกิดปัญญา สื่อถึงองค์เทพเจ้าได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น
(หากมีโอกาสได้ศึกษาความหมายของบทสวดก็จะเป็นการพัฒนาสติปัญญาของตน)
ฉะนั้น อานิงสงค์จากการสวดบูชาภาษาบาลี-สันสกฤตและภาษาโบราณต่างๆ
นั้นมีอยู่จริง!!
ขอเพียงตั้งใจสวด ไม่วอกแวก สวดด้วยใจบริสุทธิ์ สวดให้เกิดสมาธิ
ก็ย่อมเกิดผลดีแก่ทุกคน
--- การเลือกบทสวดมนต์
---
การสวดมนต์ต่อเทพเจ้าก็เพื่อแสดงความเคารพศรัทธาต่อพระองค์
เป็นการยอมรับว่าพระองค์อยู่เหนือชีวิตและชะตากรรมของเรา
และยอมรับโดยดุษฎีว่าเราไม่มีทางรอดอื่นใดนอกจากการหันหน้าเข้าหาองค์เทพและพระผู้เป็นเจ้า
เราจึงเลือกการสวดมนต์เป็นการแสดงความใส่ใจและสำนึกในบุญคุณของพระองค์
สำหรับการสวดมนตราต่างๆนั้น จะเลือกสวดบทใดก็แล้วแต่ใจปรารถนา
มนต์บทต่างๆนั้น ล้วนแล้วแต่มีความศักดิ์สิทธิ์อยู่ในตัวทุกบท
ไม่ว่าจะเป็นบทสั้นบรรทัดเดียว หรือบทยาวแบบโศลก ฉันท์
ไปจนถึงบทเพลงต่างๆ ก็มีความหมายที่ดีและนอบน้อมต่อทวยเทพ
สำหรับบทสวดที่แยกตามพระนาม เช่น พระนาม "สมาหิตายะ"
เป็น 1 ใน 108 พระนามของพระพิฆเนศ
พระนามนี้มีความหมายว่า มหาเทพผู้ประทานพลามัยที่ดี
และมีบทสวดประจำพระนามนี้ว่า "โอม
สมาหิตายะ นะมะห์"
ก็สามารถใช้สวดต่อองค์พระพิฆเนศของเรา เพื่อสรรเสริญว่าพระองค์คือมหาเทพผู้ประทานพลานามัยที่ดี
และขอพรให้เรามีพลานามัยที่ดี หายจากอาการเจ็บไข้ได้ป่วย
ดั้งเดิมแล้วพระพิฆเนศมี 108 พระนาม แต่ในหลายตำราก็ยกย่องว่าพระองค์มีมากถึง
1,080 พระนาม
และพระองค์ยังมีปางแยกย่อยไปอีก เป็นหมื่นๆปาง
ซึ่งแล้วแต่นิมิตและจินตนาการของผู้สร้างสรรค์เทวรูปและภาพเขียนจะแสดงออกมา
จึงไม่จำกัดเพียงแค่ไม่กี่ปางที่คนไทยรู้จักและไม่จำกัดเพียงว่าพระองค์จะมี
108 พระนามเท่านั้น
มหาเทพ มหาเทวีองค์อื่นๆก็มีปางและพระนามที่มากมายหลากหลาย
เช่น พระศิวะ ทรงมีพระนามถึง 8,640 พระนาม
พระวิษณุ นอกจากจะอวตาร 10 ปางเพื่อช่วยเหลือมนุษย์และเหล่าเทวดาแล้วยังมีปางเฉพาะกิจที่ระบุไว้ในตำราต่างๆอีกเป็นร้อยๆปาง
พระแม่อุมาเทวี นอกจาก นวทุรคา หรือพระแม่อุมาเทวี
กาลี ทุรคา 9 ปางแล้ว ยังมีปางปราบมารอีกนับไม่ถ้วนปรากฎในปุราณะต่างๆ
ฉะนั้น การเลือกสวดมนต์บทใด จะบทเดียวหรือ 108 บทก็สุดแล้วแต่ความปรารถนาของผู้ศรัทธาจะศึกษาและจดจำมาสวด
เราจึงสามารถเลือกบทสวดมาเพียงบทเดียว แล้วสวดถึง 108
รอบ
หรือสวดพระนามที่แตกต่างกันถึง 108 พระนามในรอบเดียว
เว็บไซต์สยามคเณศแห่งนี้จะเน้นย้ำอยู่เสมอว่า การสวดมนต์หรือการถวายของนั้น
สิ่งสำคัญอยู่ที่ใจที่ตั้งมั่นและเคารพรักในมหาเทพมหาเทวี
บทสรรเสริญต่างๆ แนะนำให้ศึกษาคำแปล ความหมายแฝงต่างๆ
เพื่อเพิ่มความลึกซึ้งเมื่อเอ่ยวาจาสรรเสริญ
การสวดมนต์บทใดก็ย่อมมีอานุภาพสูงส่งและแรงกล้าอยู่เสมอ
อย่างไรก็ดี หากจำบทสวดต่างๆไม่ได้ บทสวดพระพิฆเนศที่ว่า
"โอม ศรี คเณศายะ นะมะฮา"
หรือบทสวดสั้นๆของเทพพระองค์อื่น ก็ยังคงศักดิ์สิทธิ์ตลอดกาล
--- การระบายเรื่องต่างๆให้เทพได้รับฟัง
---
มหาเทพ มหาเทวี ทุกๆพระองค์มองเห็นชีวิตของเราที่ดำเนินไปในแต่ละวัน
แต่พระองค์ต้องการความสำนึกต่อบาป
และความจริงใจที่เรามีต่อพระองค์ ควรแสดงความรู้สึกผิดบาปในสิ่งที่ทำลงไปทั้งที่ตั้งใจและไม่ตั้งใจ
บอกกล่าวความรู้สึกและแสดงความคิดเห็นต่อเหตุการณ์รอบข้างด้วยใจที่เป็นกลาง
ตลอดจนความปรารถนาดีที่เรามีต่อผู้อื่นก็ควรบอกกล่าวแก่ท่านด้วย
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่ดีในชีวิต หรือมีผู้ใดทำร้าย
เอาเปรียบ ใส่ร้าย กล่าวป้ายสี จงอย่าเอ่ยวาจาในลักษณะ
ฟ้อง ต่อพระองค์
เพราะมหาเทพหรือพระผู้เป็นเจ้าย่อมมองเห็นทุกเหตุการณ์เสมอ
พระเจ้าสูงสุดย่อมมองเห็นทุกสรรพสิ่ง
ไม่มีสิ่งใดเล็ดรอดจากสายตาของพระองค์ได้ สิ่งที่เกิดขึ้น
ถ้าเรายอมรับว่าเป็น กรรม และชะตาที่เราต้องพบเจออยู่แล้ว
จะทำให้เราสบายใจ
ควรหมั่นสร้างกุศล เพื่อภายภาคหน้าจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ร้ายๆอีก
มหาเทพ มหาเทวี ทุกพระองค์พร้อมจะเป็น
"เพื่อน" ของผู้ศรัทธา เพราะนอกจากฐานะพระผู้เป็นเจ้า
หรือ เทพเจ้าผู้สูงศักดิ์แล้ว
เรายังสามารถเปรียบพระองค์ให้มีฐานะเป็นเพื่อน ผู้ร่วมทาง
ที่ปรึกษา ครูอาจารย์ เจ้านาย สหายผู้ทรงเกียรติ ฯลฯ
พระองค์ยินดีรับฟังปัญหาและสิ่งอัดอั้นตันใจของผู้ศรัทธาทุกคน
พระองค์เป็นผู้ฟังที่ดี เป็นที่ปรึกษาที่ยอดเยี่ยม
พระองค์ไม่เคยรู้จักเหน็ดเหนื่อย รำคาญ หรือรังเกียจเลย
ในทางกลับกันพระองค์ก็เมตตาต่อผู้ศรัทธาเสมอ
หากมีสิ่งใดที่เราไม่สามารถระบายหรืออธิบายกับใครได้
ขอจงบอกกล่าว พูดคุยกับมหาเทพ มหาเทวี ที่เราศรัทธา
เมื่อถึงกาลเวลาที่เหมาะสม พระองค์จะประทานพร ปัดเป่าความโชคร้าย
ขจัดศัตรูและมอบสิ่งดีๆแก่เราเอง ทั้งนี้อยู่ที่การกระทำของเราด้วยว่าเราได้ประพฤติตนอย่างเหมาะสมหรือไม่
ความดีที่เราได้ทำลงไปจะเป็นส่วนสำคัญที่พระองค์จะพิจารณาเมตตาและตอบรับคำอธิษฐานของเรา
--- การขอพรจากทวยเทพ
---
ควรตั้งจิตให้มีสมาธิแน่วแน่ ทูลขอพรจากพระองค์เกี่ยวกับความปรารถนาและความตั้งใจในเรื่องต่างๆ
มหาเทพ มหาเทวีทุกพระองค์ย่อมมองเห็นความลำบากของผู้ศรัทธา
ทุกวัน ทุกชั่วโมง ทุกวินาที
พระองค์มองเห็นและเข้าใจในการกระทำของผู้ศรัทธา ในทุกกิจกรรม
ทุกฝีก้าว
การขอพรด้วยความสำนึกในบุญคุณที่พระองค์มอบชีวิตอันมีค่าแก่เราและขอพรด้วยจิตใจที่ไม่โลภ
พระองค์ย่อมเมตตาเราเสมอ
ไม่ควรขอพรด้วยวิธีบนบาน เนื่องจากการติดสินบนเทพ
(การบน-แก้บน) ถือเป็นการกระทำที่ไม่ให้เกียรติ
มหาเทพจะประทานพรหรือมอบความสำเร็จใดๆ แก่เราก็แล้วแต่ความประสงค์ของพระองค์จะพิจารณาเอง
หากต้องการถวายของ ควรถวายด้วยใจบริสทธิ์
โดยไม่เอ่ยวาจาว่า..หากได้อย่างนั้น จะถวายของอย่างนี้..หรือถ้าไม่ได้ก็ไม่ถวาย
โดย : สยามเคณศ www.siamganesh.com
|