พระศุกร์
เทพแห่งความรัก ความสวยงาม พระประจำวันศุกร์
ผู้ดูแลรักษาเขาพระสุเมรุ
โดย : สยามคเณศ
ดาวศุกร์ เป็นดาวนพเคราะห์ที่อยู่ใกล้โลกที่สุด เมื่อมองใกล้รุ่ง
จะเห็นแสงสว่างจากดาวพระศุกร์สดใสสว่างจ้า เรียกกันว่า ดาวหัวค่ำ ดาวย่ำรุ่ง
หรือ ดาวประจำเมือง
ในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู กล่าวกันว่า ดาวศุกร์ หรือ พระศุกร์ เป็นเทพฤาษี
ได้รับการเชิดชูให้เป็นเทพเจ้าแห่งความรัก ซึ่งดาวศุกร์นี้ก็คือ เทพวีนัส
(Venus) นั่นเอง
นอกจากเป็นเทพแห่งความรักแล้ว พระศุกร์ ยังเป็นเทพเจ้าแห่งความงดงาม
ความตระการตา ความสว่างสดใส มีหน้าที่หนึ่งของพระศุกร์คือ เป็นผู้ดูแลรักษาเขาพระสุเมรุ
ดาวพระศุกร์ เป็นโอรสแห่ง พระภฤคุปชาบดี (พระภฤคุมุนีพรหมบุตร) กับ
นางชยาติ ซึ่งพระศุกร์เป็นครูแห่งพวก แทตย์ มีความเมตตากรุณา เป็นเทพแห่งสันติภาพ
ความสงบสุข
พระศุกร์ มีธิดาชื่อ เทวยาณี
พระศุกร์ เป็นอริกับ พระเสาร์
พระศุกร์ เป็นมิตรกับ พระอังคาร
ในตำนานกล่าวไว้ว่า พระศิวะมหาเทพ ได้สร้างพระศุกร์ขึ้นจากโค 21 ตัว
โดยพระมหาเทพได้ร่ายเวทมนต์ให้โคป่นละเอียดเป็นผง ประพรมผงนั้นด้วยน้ำอมฤต
กำเนิดเป็นเทวบุตรรูปงามนามว่า พระศุกร์ สีกายเลื่อมประภัสสร มุ่นชฎาอย่างฤาษี
ถือไม้เท้า มีประคำคล้องคอ (เมล็ดน้ำตาพระศิวะ) ทรงโคอุสุภราชเป็นพาหนะ
พระศุกร์มีชายาคือ ศุศุมา มีสุวรรณวิมาน (วิมานเป็นสีทอง)
เนื่องจากพระศุกร์ถูกสร้างขึ้นจากโค 21 ตัว กำลังนพเคราะห์ของดาวศุกร์ก็คือเลข
21
ในตำราว่าไว้ พระศุกร์สามารถชุบชีวิตคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้
รูปปั้น เทวรูปของพระศุกร์ นิยมปั้นเป็นมนุษย์ผู้ชาย ลักษณะยืน มี
2 หรือ 4 กร ถือไม้เท้า แจกัน ลูกประคำ คฑา บางปางอาจทำให้สวยงามอลังการด้วยการยืนบนรถเทียมม้า
8 ตัวหรือ 10 ตัว
พระศุกร์นั้น มีพระเนตร (ดวงตา) บอดหนึ่งข้าง ในตำนานเล่าว่า ท้าวพลี
หรือ พลิราช ได้ยกทัพขึ้นไปปราบพระอินทร์และหมู่เทวดา พระอินทร์ตั้งท่าจะรับมือไม่ไหว
จึงไปปรึกษากับพระพฤหัสบดีผู้เป็นอาจารย์ เพื่อหาทางรับมือกับทัพของท้าวพลี
จากนั้นพระอินทร์จึงนำเหล่าเทวดาไปพบกับพระกัศยปะเทพบิดร ปรึกษากันก็ตกลงว่าจะไปเข้าเฝ้าพระวิษณุมหาเทพ
เพื่อให้พระองค์เสด็จมาช่วยเหลือ พระวิษณุมหาเทพ จึงอวตารไปเป็นพระวามนาวตาร
หรือ พระวามนะ พระวามะได้ไปขอแผ่นดินกับพลิราช ท้าวพลิราชก็ตกลงว่าจะให้
แต่พระศุกร์ได้ห้ามมิให้พลิราชกระทำการหรือมอบสิ่งใดให้แก่พระวามะ
พลิราชก็กล่าวว่าได้รับปากลั่นวาจาไว้แล้วว่าจะยกผืนแผ่นดิน 3 ย่างมอบให้แก่พระวามนาวตาร
ยังได้กล่าวอีกว่าพระศุกร์ก็ต้องทำหน้าที่ปุโรหิตอ่านมนตรา จากนั้นพระศุกร์ต้องเทน้ำจากหม้อกลัศเพื่อประกอบพิธีกรรมร่วมกันให้ด้วย
พระศุกร์คิดว่า ถ้าทำพิธีกรรมมอบเผ่นดินให้แก่พระวามนาวตาร ตนก็จะเสียของไป
พระศุกร์จึงหายตัวไปอยู่ในหม้อกลัศ ใช้เวทมนตร์ทำให้หม้อไม่สามารถเทน้ำออกมาได้
พระวามนาวตารเห็นดังนั้น ก็หยิบเอาหญ้าฟางแหย่ลงไปในหม้อกลัศ ถูกดวงตาพระศุกร์
ทำให้เจ็บปวดทนไม่ไหว สุดท้ายก็ต้องปล่อยให้สามารถเทน้ำออกมาได้ พระเนตรของพระศุกร์จึงบอดข้างหนึ่ง
ในครั้งที่พระจันทร์ไปลักลอบพานางดารา ผู้เป็นชายาของพระพฤหัสบดีมา
พระศุกร์ซึ่งไม่พอพระทัยกับพระพฤหัสบดีอยู่แล้ว ก็ไปอยู่ฝ่ายเดียวกับพระจันทร์
เพื่อช่วยกันสู้รบกับพระพฤหัสบดี |