กำเนิดเทวะ
โดย "ศรีมหาโพธิ์"
พระจันทร์ กับ พระโสม (โสมเทพ) คือเทพองค์เดียวกัน
ในคัมภีร์ปุราณะ ซึ่งนักปราชญ์แต่งขึ้นในยุคใหม่หลังไตรเพทกล่าวว่า
โสมเทพ หรือ พระจันทร์ เป็นโอรสของ อตฤมุนีพรหมบุตร เกิดมาจากมหาสมุทรเพื่อกวนน้ำอมฤต
และพระจันทร์ได้กระทำพิธีราชสุรีย์ มีบุญญาธิการมาก เกิดกำเริบขึ้นไปลักพานางดารา
มเหสีของพระพฤหัสบดีไป พระพฤหัสบดีจะกล่าวว่าอย่างไรก็ไม่ฟัง แม้พระพรหมห้ามก็ไม่เชื่อ
ตลอดจนเทพทั้งหลายเตือนก็ไม่เชื่อฟัง จึงเกิดสงครามระหว่างโสมเทพกับพระอินทร์ขึ้น
พระอินทร์มีเทวดาเข้าด้วย ส่วนโสมเทพมีอสูรเข้าด้วย ทำให้นางดาราเดือดร้อนไปขอบารมีพระพรหมธาดาเป็นที่พึ่ง
พระพรหมธาดาบังคับให้พระจันทร์คืนนางดาราแก่พระพฤหัสบดี แต่ระหว่างนั้น
นางดาราตั้งครรถ์เสียแล้ว พอได้คืนพระพฤหัสบดีจึงสั่งให้บุตรคลอดออกมา
ตั้งชื่อให้ว่า พระพุธ สามีถามว่า พระพุธเป็นบุตรของใคร นางดาราตอบด้วยความจริงว่าเป็นบุตรของพระจันทร์
ก็โกรธจึงเผานางเสียจนเหลือเป็นเถ้า (ยังมีตำราว่าพระพฤหัสบดีเป็นองค์เดียวกับพระอัคนี)
ฝ่ายพระพรหมได้ชุบนางขึ้นมาใหม่ ด้วยเหตุที่นางได้ล้างบาปด้วยเพลิงแล้ว
พระพฤหัสบดีจึงรับนางไว้เป็นมเหสีดังเดิม
ฝ่ายพระสมุทรผู้บิดา มีพิโรธพระโสมผู้โอรส จึงตัดขาดพ่อลูกกัน แต่พระลักษมีผู้เป็นภคิณี
ได้ช่วยอ้อนวอนขอลดหย่อนโทษไว้ พระสมุทรจึงยอมถอนคำสาปให้ส่วนหนึ่ง
แล้วพระลักษมีก็วิงวอนพระอุมาขอว่า ให้พระโสมได้กลับขึ้นไปสู่สวรรค์
พระอุมาได้ขอร้องพระอิศวร พระอิศวรจึงได้เอาพระโสมที่ยังเหลือติดเพียงเสี้ยวเหนือ
นลาต (หน้าผาก) ของพระองค์ขึ้นสวรรค์ไปด้วยแม้ท่ามกลางเทวดาสมาคม
ทางพระพฤหัสบดีเห็นเช่นนั้นก็ขุ่นเคืองยิ่งนัก ร้อนถึงพระพรหมต้องมาไกล่เกลี่ยว่า
ขอให้พระจันทร์อยู่นอกสวรรค์ แต่ให้เป็นเจ้าหรือหัวหน้าบรรดา ดารา
(ดวงดาว) ทั้งหลาย ชาวโลกจึงแลเห็นดวงจันทร์ในเวลาเต็มดวง ดูเด่นและสว่างไสวกว่าดวงดาวทั้งมวลในท้องฟ้าเมื่อเวลาเดือนเพ็ญ
พระจันทร์ มีกายเป็นมนุษย์ ผิวขาวเหมือนดอกมะลิ มี 2 กร ทรงรถ 3 ล้อเทียมม้า
10 ตัว |