...พวกอสูรและรากษสได้ทำการบวงสรวงพระศิวะจนได้รับพรหลายประการ
จึงเกิดความฮึกเหิมก่อความเดือดร้อนไปทั่ว ร้อนถึงพระอินทร์ต้องนำเทวดาทั้งหลายไปเฝ้าพระศิวะบ้าง
ขอให้พระองค์ทรงสร้างเทพแห่งความขัดข้องขึ้น พระศิวะจึงทรงแบ่งกายส่วนหนึ่งให้บังเกิดในครรภ์ของพระแม่อุมาออกมาเป็นบุรุษรูปงามนาม
วิฆเนศวร มีหน้าที่ขัดขวางเหล่าอสูรคนชั่วมิให้ทำการบัดพลีขอพรจากพระศิวะ
อีกทั้งให้เป็นผู้อำนวยความสะดวกแก่เทวดา
และคนดีที่จะทำการใดๆ ให้ไปสู่ความสำเร็จ ดังนั้นชื่อ วิฆเนศวร
จึงเป็นอีกพระนามของพระคเณศ
ก็มีเรื่องเล่าต่อมาว่าเมื่อพระคเณศมีอายุพอจะทำ
พิธีโสกันต์ (โกนจุก) แล้ว พระศิวะก็ได้ให้เทวดาไปอัญเชิญพระนารายณ์หรือพระวิษณุที่บรรทมอยู่
ณ เกษียรสมุทรหรือทะเลน้ำนมมาร่วมพิธีด้วย ปรากฏว่าท่านกำลังหลับเพลินๆ
พอถูกปลุกก็คงจะหงุดหงิด จึงพลั้งปากเปล่งวาจาว่า "ไอ้ลูกหัวหาย
กวนใจจริง!!!!" ด้วยวาจาสิทธิ์เลยมีผลให้เศียรพระคเณศหลุดไปในทันใด
!!!
พระศิวะจึงต้องมีเทวโองการให้เหล่าเทวดาไปหาหัวมนุษย์ที่เสียชีวิตมาต่อให้
แต่ปรากฏว่าวันนั้นกลับไม่มีใครตาย มีเพียงช้างที่นอนตายอยู่ทางทิศตะวันตกเท่านั้น
เทวดาจึงต้องตัดหัวช้างมาต่อเศียรให้พระคเณศแทน ท่านเลยมีหัวเป็นช้างมาตั้งแต่บัดนั้น
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ส่วนสาเหตุที่พระคเณศมีเพียงงาเดียวนั้น
เล่ากันว่าถูกขวานของปรศุรามขว้างใส่ ซึ่งปรศุรามนี้เป็นพราหมณ์อวตารภาคหนึ่งของพระนารายณ์
และได้รับประทานขวานเพชรจากพระศิวะ ทำให้มีฤทธิ์เดชมาก ได้ใช้เทพศัตราวุธนี้ไปล้างแค้นแทนบิดามารดา
รวมถึงไปปราบปรามเหล่ากษัตริย์ทั้งหลายจนสิ้นโลก
กระนั้นก็ดีพระวิษณุก็ได้มีเทวประกาศิต
แบ่งกำลังของปรศุรามมาให้พระคเณศครึ่งหนึ่ง เพื่อมิให้มีกำลังมากเกินไป
และใช้ไปในทางที่ไม่ควรอีก นอกจากให้กำลังแล้วท่านยังประกาศให้พระคเณศมีพระนามว่า
เอกทันตะ คือผู้มีงาเดียว และว่านามนี้จะเป็นเครื่องประกาศคุณงามความดีที่ทรงเป็นลูกกตัญญูต่อบิดา
รู้จักรักษาเกียรติบิดา และยังให้นามว่า พิฆเนศวร ซึ่งหมายถึงผู้ที่สามารถกำจัดอุปสรรคได้นานาประการ
รวมทั้งให้นามว่า สิทธิบดี หมายถึง
เจ้าแห่งความสำเร็จ แต่ที่สำคัญคือให้พรแก่พระคเณศอีกว่า ในการประกอบพิธีกรรมทั้งปวง
ท่านจงเป็นใหญ่เป็นประธาน ผู้กระทำพิธีกรรมใดๆ หากไม่เอ่ยนามท่าน
ไม่สวดสรร เสริญท่านก่อน พิธีกรรมนั้นจะไร้ผล และล้มเลิกโดยสิ้นเชิง
บุคคลใดสวดสดุดีท่านก่อนทำกิจกรรมใดๆ กิจกรรมของเขาจะลุล่วงเป็นผลสำเร็จโดยง่าย
ด้วยพรที่พระวิษณุ หรือพระนารายณ์ประทานแก่พระคเณศนี้เอง
ทำให้ผู้คนทั้งหลายต่างพากันบูชา เพื่อความสำเร็จแห่งตน และนอกจากพระนามข้างต้นแล้ว
พระคเณศยังมีอีกหลายพระนาม ซึ่งล้วนเรียกตามลักษณะของพระองค์ทั้งสิ้น
เช่น อาขุรถ หมายถึงผู้ทรงหนูเป็นพาหนะ
สัพโพทร หมายถึงผู้มีท้องย้อย และ ลัมพกรรณ
หมายถึงผู้มีใบหูที่ใหญ่ อีกทั้งพระคเณศยังได้ชื่อว่า เทพแห่งปัญญา
อีกด้วย
ทั้งยังได้รับการยกย่องให้เป็นหัวหน้าแห่งเทพที่มีเศียรเป็นสัตว์ทั้งหลายอีกด้วย
และต่อมาก็ได้พัฒนาเรื่องราวจนกลายเป็นโอรสแห่งพระศิวะและพระแม่อุมาตามตำนานข้างต้น
ส่วน หนู นั้นน่าจะเกิดจากการที่สมัยก่อน
คนประกอบอาชีพเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ หนูชอบทำลายพืชพันธุ์ธัญญาหารจึงเป็นอุปสรรคต่ออาชีพและเป็นศัตรูอันดับหนึ่ง
ดังนั้นการนำหนูมาเป็นพาหนะของเทพเจ้าที่ตนนับถือจึงเป็นการแสดงความมีอำนาจเหนือกว่า
และมีนัยของการขจัดอุปสรรคไปในตัว
(ขอขอบคุณ - สยามรัฐออนไลน์)
|